สัตว์ต่างประเทศเลี้ยงได้หรือไม่ ไขคำตอบกับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หลังเกิดกรณีลักลอบนำเข้าสัตว์ผิดกฏหมาย อาทิ เต่าดาว ก่อนถูกจับกุมได้ที่สามบินสุวรรณภูมิ จากกรณีด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจประมงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าสัตว์จากต่างประเทศ เมื่อวันที่ 4 และ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ค.65) นายประเสริฐ สอนสถาพรกุล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา
เปิดเผยว่า จากการจับกุมทั้ง 2 คดี ในเวลาใกล้กันทำให้เห็นว่าเมื่อสถานการณ์โควิดเริ่มดีขึ้น ก็มีการเริ่มเดินทางกันมากขึ้นยังทำให้การลักลอบค้าสัตว์ป่ามากขึ้นอีกทั้งยังมีมูลค่าค่อนข้างสูง ซึ่งของกลางเต่ามีชีวิตที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้มีมูลค่าสูงตัวละประมาณ 10,000 บาท
ที่ผ่านมากรมอุทยานแห่งชาติฯ ตระหนักและมีมาตรการเข้มข้นมากขึ้นซึ่งสัตว์ดังกล่าวสามารถลักลอบขนย้ายผ่านทางสายการบินได้ แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะศุลกากรในการตรวจสอบสิ่งมีชีวิตที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ่านเอกซเรย์ โดยจะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบให้มากยิ่งขึ้นและต้องดูเส้นทางว่าส่งมาจากประเทศต้นทางคืออะไรซึ่งแต่ละประเทศก็มีหน่วยงานไซเตสอยู่โดยจะได้หาแนวทางป้องกันร่วมกันต่อไป
เลี้ยงสัตว์ต่างประเทศ ผิดกฎหมาย หรือไม่ ? ทั้งนี้ การเลี้ยงสัตว์ต่างประเทศในขณะนี้ยังถือว่าไม่ผิดกฎหมาย แต่จะต้องมีการแจ้งส่งออกและแจ้งนำเข้าประเทศตามบัญชีไซเตสให้ถูกต้องตามระเบียบ แต่ที่ยังมีการลักลอบนำเข้านั้นอาจจะเป็นเพราะที่มาของสัตว์ต่างๆ ไม่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ที่ถูกต้อง หรืออาจจะเป็นสัตว์ตามธรรมชาติของประเทศนั้นๆ
สำหรับสัตว์ป่าของกลางกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้รับมอบเพื่อนำไปตรวจสุขภาพเต่าทั้งหมดเป็นอันดับแรก ซึ่งจะต้องนำมาแช่น้ำอุ่นผสมกับพวกวิตามินเพื่อรักษาอุณหภูมิ และต้องระวังเรื่องการขาดน้ำเพราะว่าเต่าถูกขนส่งมาค่อนข้างนานอาจจะเกิดการขาดน้ำ และสังเกตอาการว่ามีความปิดปกติหรือไม่ ซึ่งพบว่าเต่าทุกตัวมีการตอบสนองดี โดยอาจจะต้องดูแลสุขภาพไปสักระยะ เพื่อให้ปรับสภาพสภาพให้ดีขึ้นก่อนที่จะส่งต่อไปยังสถานีเพาะเลี้ยงหรือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าต่อไป
หัวอกแม่ ส่งลูกเรียนโรงเรียนประจำ รุ่นพี่รุมแกล้ง กลับบ้านร้องไห้ นอนผวาทั้งคืน
ลูกโดนแกล้งที่ โรงเรียน ผู้ปกครองส่งลูก 9 ขวบ เรียนในโรงเรียนประจำผ่านไป 2 เดือน ร่างกายซูบผอม รอยช้ำทั้งตัว ก่อนสารภาพโดนรุ่นพี่ ม.2 แกล้งทุกคืน เตะ ต่อย ขู่ห้ามฟ้องครู
ประเด็นร้อนล่าสุดโลกออนไลน์ หลังเกิดกรณี “เฟซบุ๊กแฟนเพจ อีซ้อขยี้ข่าว” แฉพฤติกรรมของรุ่นพี่ ม. 2 ของโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง ใน จ.จันทุบรี ทำร้ายร่างกายรุ่นน้อง ป.4 ทั้งเตะ ต่อย จนฟกช้ำไปทั่วตัว แถมยังขู่ห้ามเอาเรื่อองไปฟ้องครู กระทั่งเด็กที่ถูกทำร้ายกลับบ้าน แม่ซึ่งเป็นผู้ปกครองผิดสังเกต ร่างกายซูบผอม สภาพแตกต่างจากตอนส่งเข้าโรงเรียนประจำจนแทบจำไม่ได้
“เด็ก ป.4 ถูกรุ่นพี่ ม.2 เตะ ต่อย ซ้อมน่วมทุกคืนเนื้อตัวมีแต่รอยฟกช้ำ โดนซ้อมเสร็จถูกขู่ห้ามร้องไห้ ห้ามฟ้องครู! มีผู้ปกครองรายนึงเล่าว่านำลูกย้ายมาอยู่โรงเรียนประจำใน จ.จันทบุรี สัปดาห์ที่แล้วพาน้องกลับบ้าน สภาพต่างกับเมื่อ 2 เดือนที่แล้วจนแทบจำไม่ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้น้องโทรมาร้องไห้บอกว่า “มีรุ่นพี่สงสารเลยแอบเอาโทรศัพท์มาให้ บอกให้รีบโทรบอกแม่ว่าถูกซ้อมทุกคืน” ซึ่งน้องยังบอกกับแม่อีกว่าเวลาอยู่หอนอน
ช่วงกลางคืนพวกรุ่นพี่ ม.2 จะเข้ามารังแก ชกท้อง รุมต่อย นอนจุกกอดท้องตลอด พอตื่นมาแขน ขา ปวดระบม ซึ่งทุกครั้งพี่จะขู่ว่าถ้าร้องไห้หรือเอาไปพูดให้ใครฟังจะเอาให้น่วม วันรุ่งขึ้นคุณแม่รีบยกหูหาทางโรงเรียนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกชายของตนเอง ซึ่งเวลานี้รอคำตอบจากทางโรงเรียนว่าจะดำเนินการยังไง…ถ้าพ่อแม่คนไหนเจอเหตุการณ์แบบนี้เกิดกับลูกตัวเองก็คงอดคิดไม่ได้ว่าเรากำลังส่งให้ไปเรียนหรือส่งให้เค้าไปทรมานกันแน่? โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.จันทบุรี / คุณแม่- ชลบุรี
ต่อมา เฟซบุ๊ก โหนกระแส ออกมาเผยบทสัมภาษณ์ของแม่เด็กผู้เสียหาย เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.65) ทำให้ทราบอีกว่า ลูกชายได้ขอยืมโทรศัพท์รุ่นพี่โทรมาหา บอกให้แม่ส่งของกินมาให้หน่อย จากนั้นก็เริ่มร้องไห้ แม่จึงถามว่า ‘มีรุ่นพี่แกล้งรึป่าว’ ลูกชายไม่ได้ตอบ แต่มีเสียงรุนพี่แทรกขึ้นมาว่า ‘ไม่ได้แกล้งครับ’ แต่ลูกชายยิ่งร้องไห้หนัก และบอกว่า อยากกลับบ้าน
ทั้งนี้ แม่เด็ก เล่าว่าเมื่อ 17 พ.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเปิดเทอม ได้พาลูกชายอายุ 9 ปี เดินทางจาก จ.ชลบุรี เพื่อไปเรียนในโรงเรียนประจำชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดจันทบุรี ตลอดระยะเวลาเข้าเรียน จะติดต่อกับลูกได้ผ่านทางคุณครูเท่านั้น กระทั่งเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังโทรศัพท์คุยกันแล้วลูกชายบอกอยากกลับบ้าน วันรุ่งขึ้นจึงเดินทางไปที่โรงเรียน ก่อนจพบ สภาพของลูกที่เปลี่ยนไปมาก ร่างกายพร้อมฝโซใผิดจาาก 2 เดือนก่อน เมื่อสอบถามลูกชายก็ร้องไห้พร้อมกับเล่าต่อหน้าครูว่าถูกรุ่นพี่แกล้ง มีการถอดเสื้อเพื่อให้ดูรอยช้ำต่างๆ ตามร่างกาย รวมถึงที่ใบหน้าและศรีษะ
ปัจจุบัน แม่เด็ก ระบุว่า ได้นำตัวลูกชายกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว แต่กลางคืนลูกยังคงมีอาการนอดผวา และร้องไห้บ่อยครั้ง ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แม้ทาง ผู้อำนวยการโรงเรียนจะแจ้งว่า ได้บอกให้ผู้ปกครองของคู่กรณีเข้ามาขอโทษ แต่เธอไม่อยากรับคำขอโทษ เพราะต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง